Think กริยา 3 ช่อง และตัวอย่างประโยค

Think กริยา 3 ช่อง และตัวอย่างประโยค

think กริยา 3 ช่อง
Think กริยา 3 ช่อง และตัวอย่างประโยค

Think กริยา 3 ช่อง

think (ธิง) ความหมาย คิด,มีความคิดเห็น,นึกออก,เข้าใจ,ตั้งใจ,ใช้ความคิด,ครุ่นคิด,นึก,ระลึก,รำลึก,รำพึง,ไตร่ตรอง,อยากจะ,เข้าใจว่า,รู้สึกว่า,คิดว่า,ถือว่า. vt. คิดว่า,รู้สึกว่า,ถือว่า,เข้าใจว่า,คาดคิด



Think กริยา 3 ช่องตัวอย่างประโยค

What are you always thinking about?
อะไรคือสิ่งที่คุณชอบคิด?

I can't think with that noise
ฉันไม่สามารถใช้ความคิดเมื่อมีเสียงรบกวน

I think all fat people should go on a diet
ฉันคิดว่าคนอ้วนทุกคนควรลดน้ำหนัก

I think so.
ฉันเห็นด้วย

I don't think so.
ฉันไม่เห็นด้วย

Think Vocabulary

thinking (ธิง'คิง) adj. มีเหตุผล,ชอบคิด,ชอบพิจารณา n. ความคิด,การพิจารณา
think so (ธิง โซ) ฉันเห็นด้วย ฉันก็คิดว่าเช่นนั้นเช่นกัน
bethink (บิธิงคฺ') {bethought,bethought} vt. ทำให้ต้องพิจารณา,ทำให้ระลึกถึง
freethinker (ฟรีธิง) n. ผู้มีความคิดอย่างอิสระ
unthinkable (อันธิง'คะเบิล) adj. คิดไม่ถึง,นึกไม่ถึง,นอกประเด็น,ไม่พิจารณา.
unthinking (อันธิงคิง) adj สะเพร่า,ไม่เกรงใจ,ไม่ยั้งคิด

Thought กริยา 3 ช่อง

thought (ธอท) กริยาช่อง 2 และช่อง 3 ของ think

Thought กริยา 3 ช่องตัวอย่างประโยค

We thought it impossible to stop him.
เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเขา

I thought it difficult for her to get the message.
ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะได้รับข้อความ

Thought Vocabulary

thought-out (ธอท เอาท์) adj. ไตร่ตรองมาก,ครุ่นคิดมาก,คิดมาอย่างละเอียด
thoughtful (ธอท'ฟูล) adj. ครุ่นคิด,ไตร่ตรอง,ใช้ความคิด,คิดหนัก,เอาอกเอาใจผู้อื่น,ระมัดระวัง
thoughtless (ธอส'ลิส) adj. ไม่ระมัดระวัง,สะเพร่า,เลินเล่อ,ไม่เอาใจใส่,ประมาท,ไม่คิดถึงคนอื่น,ไม่มีความคิด
aforethought (อะฟอรฺ' ธอท) adj. ซึ่งคิดมาล่วงหน้าแล้ว, จงใจ
forethought (ฟอร์'ธอท) adj. ซึ่งได้คิดล่วงหน้าไว้,รอบคอบ,สุขุม
free thought (ฟรี ธอท) n. ความคิดที่อิสระ,ความคิดเสรี

Take กริยา 3 ช่อง และประโยคตัวอย่าง

Take กริยา 3 ช่อง และประโยคตัวอย่าง

Talk กริยา 3 ช่อง
Talk กริยา 3 ช่อง และประโยคตัวอย่าง


take (เทค) v. แปลว่า เอาไป,นำไป,พาไป,เข้าใจ,ยึด(โดยใช้กำลัง),ถือ,จับ,กิน

take a nap (เทค อะ แนป) งีบ, ม่อยหลับ
take a leak (เทค อะ ลีก : ศัพท์แสลง) ไปฉี่
take after (เทค อาฟเตอร์) เหมือน
take in (เทค อิน) หลงเชื่อ
take out (เทค เอาท์) สมัครเป็นสมาชิก
takeoff (เทค'ออฟ) n. การบินขึ้น,การเลียนแบบ,จุดเริ่มต้น,การหยิบเอาไป,การประเมิน
take away (เทค อะ เวย์) พราก, ชักพาไป, เอาไป
take back (เทค แบค) เอาคืน
take care of (เทค แคร์ ออฟ) ดูแล, พิทักษ์รักษา, รับภาระ
take effect (เทค เอฟเฟค) มีผล, มีผลบังคับ
takeover (เทค โอเวอร์) การเข้าครอบครอง
take part (เทค พาร์ท) เข้าร่วม มีส่วนร่วม
take a stand (เทค อะ สแตน) ยึดหลัก ยืนหยัด
take up (เทค อัพ) เริ่มหันมาสนใจ
take a shot at (เทค อะ ชอท แอท) ลองทำ
take it easy (เทค อิท อีซี่) ทำตัวสบายๆ
take it out (เทค อิท เอาท์) เอามันออกไป,พามันออกไป
betake (บิ เทค) {betook,betaken,betaking,betakes} vt. ทำให้ต้องไป,ใช้,หันไปใช้วิธี,ตรงไป,ไป,นำ
mistake (มิส เทคฺ') {mistook,mistaken,mistaking,mistakes} n. ความผิดพลาด,ความเข้าใจผิด,ความนึกคิดที่ผิด.


ประโยคบอกเล่า

They wanted to take pictures of Bangkok.
พวกเขาต้องการถ่ายภาพที่กรุงเทพ
I take English lesson three times a week.
ฉันเรียนภาษาอังกฤษ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ 
They don't take care of that dog.
พวกเขาไม่ดูแลสุนัขนั่น

He takes after his mother.
เขาหน้าเหมือนแม่

ประโยคคำถาม

Don't they take care of the dog?
พวกเขาไม่ดูแลสุนัขเหรอ?

Can I take a shot at explaining?
ขอฉันลองอธิบายได้มั้ย?

How is your take English lesson per a week?
คุณเรียนภาษาอังกฤษกี่ครั้งต่อสัปดาห์?

took (ทุค) v. กริยาช่อง 2 ของ take

betook (บิทุค') v. อดีตกาลของbetake
mistook (มิสทุค') v. อดีตกาลของmistake
partook (พาร์ทูค') v. กริยาช่อง 2 ของ partake
retook (รีทุค') vi.,vt. กริยาช่อง 2 ของ retake
undertook    (-ะทุค') vi.,vt. กริยาช่อง 2 ของ undertake

ประโยคบอกเล่า


I took a shot at Lottery.
ฉันลองซื้อลอตเตอร์รี่ดู
Jane took her dog for a walk.
เจนพาสุนัขของเธอไปเดินเล่น

He took a beautiful shot at a deer.
เขาถ่ายภาพกวางได้สวยงาม

I felt better after I took a rest.
ฉันรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ฉันพักผ่อนแล้ว
taken (เท'เคิน) vi.,vt. กริยาช่อง 3 ของ take
mistaken (มิสเท'เคิน) adj. ผิดพลาด,ซึ่งกระทำผิด.
The medicine has to be taken every six hours.
ยาจะต้องออกฤทธิ์ทุก 6 ชั่วโมง

Where did you get this photo taken?
ภาพนี้คุณถ่ายที่ไหน?

Run กริยา 3 ช่อง ความหมาย และตัวอย่างการใช้งาน

Run กริยา 3 ช่อง

run กริยา 3 ช่อง
run กริยา 3 ช่อง

Run กริยา 3 ช่อง

Run กิริยาช่องที่ 1 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
They run quickly.
พวกเขาวิ่งเร็ว

Run กิริยาช่องที่ 2 ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
The dog ran around and around the tree.
สุนัขวิ่งรอบๆ ต้นไม้


Run กิริยาช่องที่ 3 ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา หรือ Complement  “
He's running at full speed.
เขาวิ่งเต็มกำลัง

วิธีการใช้ Run กริยา 3 ช่อง Affirmative (บอกเล่า)    

S + is,am,are + going to + verb (base form)
S + was, were + V.ing

ตัวอย่างการใช้ Run เช่น

You will run.
คุณจะวิ่ง
 
Weren’t  you walking while they were running. 
คุณไม่ได้กำลังเดินใช่ไหม ขณะที่พวกเขากำลังวิ่ง

วิธีการใช้ Run กริยา 3 ช่อง Negative (ปฏิเสธ)    

S + is,am,are  + not   + going to + verb (base form)
ประโยคปฏิเสธคล้ายประโยคบอกเล่า เพียงแค่เอาคำว่า not มาวางหลัง was, were
    was not เวิส น็อท >> wasn’t วอสเซินท  แปลว่า ไม่
    were not เวอ น็อท >> weren’t  เวินท   แปลว่า ไม่

ตัวอย่างการใช้ Run เช่น

You will not run.
คุณจะไม่วิ่ง
 
You weren’t walking while they were running. 
คุณไม่ได้กำลังเดิน ขณะที่พวกเขากำลังวิ่ง

วิธีการใช้ Run กริยา 3 ช่อง Interrogative (คำถาม )    

 Is,Am,Are + S + going to + verb (base form)?

ตัวอย่างการใช้ Run

Will you run?
คุณจะวิ่งไหม?



Run away แปลว่า หนี

When she was thirteen she run away from home.
เมื่อเธออายุ 13 ปีเธอก็หนีออกจากบ้านไป
Run away bride
หนีการแต่งงาน

Run after แปลว่า วิ่งตาม

Don't run after me any more.
อย่าวิ่งตามฉันอีก

Quick, run after him.
เร็วสิ!! วิ่งตามเขาไป

Run out of แปลว่า หมด ขาดแคลน ไม่มีเหลืออยู่

Unfortunately, you and I have run out of time.
โชคไม่ดี เวลาของนายกับฉันจะหมดแล้ว

They're going to run out of fuel in 90 minutes.
น้ำมันพวกเขาจะหมดภายใน 90 นาทีนี้

So what happens when you run out of choices?
งั้นจะเกิดอะไรขึ้น ถ้านายหมดทางเลือก

You run out of money, you run out of friends.
ถ้านายตังส์หมด เพื่อนนายก็หมดด้วย

If you run out of soap, you can buy an extra bar.
ถ้าสบู่หมด คุณสามารถซื้อแท่งใหญ่พิเศษได้

Run out (of something)
สำนวนนี้ หมายถึง “หมด, ขาดแคลน, ไม่มีเหลืออยู่” 
ตัวอย่างประโยค

We are going to run out of fuel soon.
น้ำมันพวกเรากำลังจะหมดในไม่ช้า

My pen has run out of ink! Can I borrow your pen?
ปากกาของฉันหมึกหมด ขอยืมปากกาของเธอได้มั๊ย?

World never runs out of war.
โลกไม่เคยปราศจากสงคราม

Strength will happen when you run out of weakness.
ความเข้มแข็งจะเกิดเขึ้นเมื่อความอ่อนแอของคุณหมดไป

LOVE usually happens when we run out of HATE.
“ความรัก” มักเกิดขึ้นเมื่อ “ความชัง” นั้นหมดไป
Credit Information :
pasaangkit.com/run-out
rn.ac.th/english/pornwilai/pornwork/text_future_simple.htm
englishidiomsaday.blogspot.com/2013/01/run-out-of.html 
ภาษาอังกฤษออนไลน์.com

Bring กริยา 3 ช่อง ฺและตัวอย่างการใช้ Bring

Bring กริยา 3 ช่อง ฺ

Bring กริยา 3 ช่อง
Bring กริยา 3 ช่อง

สำนวนที่ใช้ในประโยค Bring

  • Bring in Bring off
  • Bring on Bring out
  • Bring to & Bring up or bring upon.

Bring  up  หมายถึง  เลี้ยงดู , หยุด ,นำออกมา เช่น

Tom  was  brought  up  in  the  city  so  everything  in  the  countryside  was  new  to him.
ทอมเติบโตขึ้นมาในเมือง  ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างในชนบทจึงเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา
They  decided to  bring  up  the  matter  at  the  board  meeting.
พวกเขาตัดสินใจที่จะนำเรื่องราวนี้นำเสนอต่อที่ประชุมต่อที่ประชุมคณะกรรมการ
He  brought  the  car  up  short  when  the  light   changed  to  red .
เขาหยุดรถลงอย่างรวดเร็ว  ทันทีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง

ข้อควรระวัง

มีความหมายใกล้เคียงกับ Take  care  of  ( ดูแล )  raise  ( ยก )  educate ( สั่งสอน , ฝึกฝน )  call attention to  ( ขอให้พิจารณาดู )  stop (  หยุด )  เป็นต้น
- bring  up  ที่มีความหมายว่า  stop มักใช้คู้กับ  short  เช่น  ตัวอย่างในประโยคในข้อ 3
- bring  up  ในภาษาพูด มีความหมายว่า ( อาเจียน )

“To bring in” หมายถึง นำมาหรือนำพา เช่น

“Two suspicious characters are being brought in.”
เขากำลังเอาตัวเจ้าคนผู้ต้องสงสัยสองคนนั่นเข้ามาแล้ว
 
“Experts were brought in to advise the Government.”
ได้มีการนำผู้ชำนาญการพิเศษเข้ามาให้คำแนะนำแก่ทางการรัฐบาลกันแล้ว
 
“The jury brought in a verdict of guilty.”
คณะลูกขุนได้ยื่นคำชี้ขาดว่าจำเลยมีความผิด
 
“John does odd jobs that bring him in about $ 220 a week.”
จอห์นรับทำงานมโนสาเร่มีรายได้ตกราวสัปดาห์ละ ๒๒๐ ดอลลาร์
 
“Local residents were angry at not being brought in on the new housing scheme.”
พวกชาวบ้านเจ้าถิ่นโกรธเคืองที่ไม่ได้ให้เข้ารับรู้เรื่องโครงการบ้านจัดสรรที่จะเกิดขึ้นใหม่นั้น

“To bring off” หมายถึง ทำให้อะไรเกิดขึ้นได้สำเร็จ เช่น

“Mr. White brought off an agreement that had seemed impossible to get.”
มิสเตอร์ไวท์สามารถเกลี่ยกล่อมอีกฝ่ายหนึ่งต้องยอมตกลงทำสัญญากันได้ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นดูประหนึ่งว่าจะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เลยทีเดียว
 
“Jimmy tried several times to break the high jump record, and finally he brought it off.”
จิมมี่ได้พยายามหลายครั้งหลายหนแล้วที่จะทำลายสิถิติเดิมในการแข่งขันกรีฑากระโตดสูง และเขาก็สามารถทำได้สำเร็จในที่สุด
 
“The goalkeeper brought off a superb save.”
ผู้รักษาประตูฟุตบอล สามารถรักษาประตูไว้ได้อย่างสวยงาม
He bought a new necktie yesterday.เขาซื้อแน็คไทเส้นใหม่มาเมื่อวานนี้ 
“You have brought shame and disgrace on yourself and your family.” เอ็งทำความอัปยศอดสูมาให้ตัวมึงและวงศาคณาญาติของมึงเองโดยแท้

“Bring on” หมายถึง นำไปสู่ หรือเป็นผลให้อะไรอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่น

“Susan has been out in the rain all day and this brings on a bad cold.”
ยายซูซานออกไปตากฝนมาทั้งวันเลยทำให้ต้องเป็นหวัดไปอย่างแรงเสียแล้ว
 
“The hot weather is bringing the wheat on nicely.”
อากาศร้อนทำให้ต้นข้าวสาลีงอกงามได้สวยมากเลยทีเดียว

ความแตกต่างระหว่าง Bring และ Take

Bring และ Take ความหมายก็ไม่ใกล้เคียง แต่ก็ทำให้หลายคนสับสนได้เช่นกัน อธิบายง่ายๆ
Bring คือการนำมา พามา นำสิ่งของมาหาเรา
Take คือการเอาไปนำไปด้วย
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนสามารถแยกอธิบายได้ดังนี้

Bring: towards พามา นำมา
ตัวอย่าง
Bring that book to me.
Please bring me a glass some water.
Please bring your essays to classes tomorrow.

Take: away from เอาไป (ตรงข้ามกับBring)
ตัวอย่าง
Take it away from me.
Please don’t forget to take your book home with you.

กริยา 3 ช่อง ฺBuy และตัวอย่างการใช้ Buy

กริยา 3 ช่อง ฺBuy


กริยา 3 ช่อง ฺBuy
กริยา 3 ช่อง ฺBuy


กริยา 3 ช่อง ฺBuy ตัวอย่างประโยคการใช้งาน

Past Simple Tense การเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นปฏิเสธ และคำถาม


 He bought a computer last Sunday.
เขา ซื้อ คอมพิวเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ ที่แล้ว


โครงสร้างประโยคปฏิเสธ
ประธาน + did+ not + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)
เหตุที่กริยาใช้กริยาช่องที่ 1 เพราะ did เป็นกริยาช่องที่ 2 ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นเหตุการในอดีตอยู่แล้ว จึงไม่ต้องใช้กริยาช่องที่ 2 อีกแต่อย่างใด
He didn't buy a computer last Sunday.
เขา ไม่ได้ ซื้อ คอมพิวเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ ที่แล้ว

ประโยคคำถาม  Yes / No Question

การทำประโยคคำถามให้เอาคำว่า Did มาวางไว้หน้าประโยคแค่นั้นเองและอย่าลืมเติมเครื่องหมายคำถามท้ายประโยคด้วยนะครับ

ประโยคคำถามแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ ถามในรูปแบบบอกเล่า และถามรูปแบบปฏิเสธ
1. การถามในรูปแบบบอกเล่า 
Did + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)
Did he buy computer yesterday?

2. การถามในรูปแบบปฏิเสธ

การถามในรูปปฏิเสธแบ่งออกอีกสองประเด็นคือ ในรูปแบบเต็ม และรูปแบบย่อ

รูปแบบเต็ม
Did + ประธาน +not+ กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)
รูปแบบย่อ
Didn't + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (กริยาไม่เติม s ทุกกรณี)
Did he not buy a computer last Sunday?
เขา ไม่ได้ซื้อ คอมพิวเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ ที่แล้ว ใช่ไหม

ข้อมูลจาก : ภาษาอังกฤษออนไลน์.com

กริยา 3 ช่อง Begin และตัวอย่างการใช้ Begin

กริยา 3 ช่อง Begin

กริยา 3 ช่อง Begin
กริยา 3 ช่อง Begin

ตัวอย่างการใช้ประโยค กริยา 3 ช่อง Begin

Begin  เป็นคำผสมระหว่าง  Be ( เป็น , อยู่  ) กับ Gin ( เริ่ม ) ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษแบบเก่า หมายความว่า อะไรบางอย่างเริ่มต้นขึ้น และกลายเป็น หรือ ในอดีตไม่มีอยู่ แต่เริ่มมีขึ้นอย่างกระทันหันตั้งแต่ช่วงเวลาหนึ่ง 
Begin มักจะเป็นการแสดงถึงอนาคตอันใกล้โดยใช้อยู่ในรูป present เนื่องจากมีนัยของความหมายว่า อะไรสักอย่างเกิดขึ้นมาในระยะเวลาที่กำหนด  ดังนั้น ถ้าเพียงแค่กำหนดเวลาลงไปก็สามารถแสดงถึงเรื่องของอนาคตได้
Let's begin at page 30.
เริ่มต้นที่หน้า 30
 
We must begin before five.
พวกเราต้องเริ่มก่อน 5
 
The first class begins at 8:30.
ชั้นแรกเริ่มต้นตอน 08.30
 
Read Lesson 10 from the beginning.
อ่านจากเริ่มต้นถึงบทเรียนที่ 10
 
Let's begin with the fifth line on page 10.
เริ่มต้นจากบรรทัดที่ 10 ของหน้า
 
The twenty-first century begins in 2001.
ศษวรรษที่ 21 เริ่มต้นในปี 2001
 
2001 is the year when the 21st century begins.
ในปี 2001 เป็นปีเริ่มต้นศตวรรษที่ 21
 
"Let us begin today's lesson by opening our books to page 156," said the teacher.
คุณครูพูดว่า "เราเริ่มบทเรียนวันนี้ด้วยการเปิดหนังสือหน้า 156" 

ตัวอย่างการใช้ประโยค กริยา 3 ช่อง Begin ในสำนวนต่างๆ

To begin หมายถึง เริ่มแรก

To begin , read chapter 1. อันดับแรกให้เริ่มจากการอ่านบทที่ 1

To begin with หมายถึง อย่างแรก , อันดับแรก

Let ‘s have some wine , to begin with.
เราเริ่มด้วยการดื่มไวน์กันเถิด
 
To begin with , I didn't even go to that party.
อย่างแรก คือ ฉันไม่ได้ไปร่วมงานปาร์ตี้นั้น

at the beginning of  หมายถึง เริ่มต้นของ , ช่วงแรกของ

I came to Japan at the beginning of July.
ฉันมาที่ญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม

in the beginning หมายถึง ในช่วงแรก

In the beginning , the earth was a mass of space dust.  ในช่วงแรก  โลกเป็นมวลสารของฝุ่นผงในอวกาศThis music sounds very soft in the beginning.  ดนตรีในช่วงต้นของเพลงนี้นุ่มนวลมาก

a beginner at หมายถึง ผู้เริ่มต้น

Kaninya is only a beginner at French.
คณิณญาเพิ่งจะเริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศษ
 
Have you begun learning Japanese ?
คุณเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วหรือยัง ?
 
Yes , but I ‘m just a beginner.
เริ่มแล้ว  แต่เพิ่งจะอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น

ตัวอย่างการใช้ประโยค Begun

Well begun is half done.
การเริ่มต้นที่ดีถือว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
 
He always said, “Well begun is half done.”
เขามักจะพูดอยู่เสมอว่า “การเริ่มต้นที่ดีถือว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง”
 
Let ‘s get to work. Well begun is half done, you know.
ไปทำงานกันเถิด รู้แล้วใช่ไหมว่าการเริ่มต้นที่ดีหมายถึงสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง

ที่มา : หนังสือ 50 คำกริยาในสนทนาภาษาอังกฤษ เรียบเรียงโดย คัทรินยา แก้วบัณฑิตย์ 

กริยา 3 ช่อง ฺChange และตัวอย่างการใช้ Change

กริยา 3 ช่อง ฺChange 



กริยา 3 ช่อง ฺChange
กริยา 3 ช่อง ฺChange 

กริยา 3 ช่อง ฺChange ประโยคตัวอย่าง
In ten years our town will change a lot.
Have you got change for a dollar?
Could you give me change for a dollar?
The weather changes very often at this time of year.
Can you make change for a 20-dollar bill?
In the course of the twentieth century all this changed.

กริยา 3 ช่อง Beat และตัวอย่างการใช้ Beat

กริยา 3 ช่อง Beat 

กริยา 3 ช่อง Beat
กริยา 3 ช่อง Beat 

ตัวอย่างประโยค Beat

He's beating me, three to zip.Go and beat up that bully.That naughty child needs a good beating.I'll bet that I can beat you to the tree.I can beat him hands down.My wife used to be a pro-wrestler, so if she ever catches me two-timing her, I'd be beaten to a pulp.The chances are that he'll be beaten.Your heart's beating, alive and beating.

  การเปลี่ยนประโยค Active เป็น Passive

- Present Simple

            I beat a snake.                          A snake is beaten by me.
                          ฉันตีงู                          งูถูกตีโดยฉันเอง

-Present Continuous

            I am beating a snake.                A snake is being beaten by me.
                          ฉันกำลังตีงู                              งูกำลังถูกฉันตี              

-Present Perfect

            I have beaten a snake               A snake has been beaten by me.

- Present Perfect Continuous

            I have been beating a snake      A snake has been being beaten by me.

-Past Simple

            I beat a snake                           A snake was beaten by me.

-Past Continuous

            I was beating a snake.               A snake was being beaten by me.

- Past Perfect

            I has beaten a snake.                A snake had been beaten by me.

-Past Perfect Continuous

            I had been beating a snake.       A snake had been being beaten by me.

Beating around the bush

(บี-ทิง อะเรา-น-ด เดอะ เบอ-ช) แปลตรงตัวก็คือการทุบรอบๆ พุ่มไม้ แต่ความหมายที่แท้จริงคือ การหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นหลัก หรือ การพูดอ้อมค้อม


Information's by อาจารย์ อดัม / l3nr.org/dict.longdo.com

กริยา 3 ช่อง Read และตัวอย่างการใช้ Read

กริยา 3 ช่อง Read 

กริยา 3 ช่อง Read
กริยา 3 ช่อง Read 
จะสังเกตุได้ว่าคำกริยา 3 ช่อง Read นั้นใช้ Read ทั้งหมดทุกช่อง
แต่จะเติม ing ในกรณีที่

  1. ต้องการกล่างถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนั้น 
  2. ต้องการกล่าวถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้มักใช้กับคำกริยาที่เกี่ยวกับการเดินทาง

Give me a minute. Let me read it first.
ขอเวลาฉันสักครู่นะ ขอฉันอ่านมันก่อน
You should read this book!
คุณควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้
What we read influences our thinking.
สิ่งที่เราอ่านให้อิทธิพลกับความคิดของเรา
What are you reading, or is it private?
คุณกำลังอ่านอะไรอยู่ เป็นเรื่องส่วนตัวหรือ?

กริยา 3 ช่อง Know และตัวอย่างการใช้ Know

กริยา 3 ช่อง Know 


กริยา 3 ช่อง Know
กริยา 3 ช่อง Know 

Knew เป็นรูปอดีตกาล (past tense) ของคำว่า Know ที่แปลว่า “ทราบ, รู้”
ตัวอย่าง
I knew he could swim.ผมรู้ว่าเขาว่ายน้ำเป็นI knew her three years ago.ผมรู้จักเธอมา 3 ปีแล้ว
Know เป็นกริยาที่แสดงสภาวะของจิตใจ ดังนั้นจึงใช้รูป continuous tenses ไม่ได้
ตัวอย่าง
I am knowing him.I know him.
และใช้ know + noun/pronoun + to + verb ได้
ตัวอย่าง
He knows the way to go.เขารู้หนทางที่จะไป
แต่ถ้าหากไม่มี noun/pronoun ตามหลัง know จะต้องมี how+to+verb ช่อง 1
ตัวอย่าง
I know how to cook food.ผมรู้จักวิธีปรุงอาหารShe knows how to play tennis.เธอรู้วิธีการเล่นเทนนิส


KNOW-HOW and KNOWLEDGE

Know-how (โนว์-ฮาว) แปลว่า “ความรู้หรือความชำนาญที่ใช้การได้จริง”
ตัวอย่าง
He is good in know-how.เขามีความรอบรู้ชำนาญที่ใช้การได้จริงทางปฏิบัติ
Knowledge (โน-เลจ) แปลว่า “ความเข้าใจ, ความรู้, สิ่งที่รู้แล้ว”
ตัวอย่าง
Knowledge is of two kinds : We know the subject ourselves or we know where to find it.ความรู้มี 2 อย่าง คือเรารู้เรื่องนั้นด้วยตนเอง กับรู้ว่าจะไปหาความรู้นั้น ได้ที่ไหน

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

กริยา 3 ช่อง Think และตัวอย่างการใช้ Think

กริยา 3 ช่อง Think


กริยา 3 ช่อง Think
กริยา 3 ช่อง Think 

Thought เป็นรูปอดีตกาลของ Think 

  • I thought we are over. - ฉันนึกว่าเราจบกันไปแล้ว
  • Oh, he thought you already went home. - เขานึกว่าคุณกลับบ้านไปแล้วซะอีก
  • I thought of him the other day. - เมื่อวันก่อนฉันคิดถึงเขาอยู่เชียว
  • Well, but your thought is wrong. - แหงะ สิ่งที่คุณเข้าใจนั้นมันผิดอ่ะ

Thinking ใช้ในรูปปัจจุบันกาลของ Think 

ขณะนี้ที่เอ่ยถึงนี้, ตอนนี้ (เป็นคำนามก็ได้เช่นกัน) มาจากคำว่า Think ที่เติม ing เข้าไป เพื่อบ่งบอกสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ 

  • I am sitting here thinking about him.- ฉันกำลังนั่งอยู่ที่นี่และคิดถึงเขา
  • He is thinking for a long time. - เขาใช้เวลาคิดนาน (และตอนนี้ก็กำลังคิดอยู่)
  • What is he thinking? - เขาคิดอะไรของเขาหว่า?
  • I've been thinking about our future. - ฉันใคร่ครวญเรื่องอนาคตของเรา
  • I think you should come to see me. - ฉันคิดว่าเธอควรจะมาหาฉันนะ
  • He doesn't think that is a good idea. -เขาไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี
  • You need to think twice. -คุณต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี
  • Let's think think and think. -เราต้องคิดคิดและคิด

Credit Information's by น้าอ้อ

กริยา 3 ช่อง Teach และตัวอย่างการใช้ Teach

กริยา 3 ช่อง Teach


กริยา 3 ช่อง Teach
กริยา 3 ช่อง Teach 
ตัวอย่างประโยคที่่ใช้ Teach

ประโยคคำถาม 

What do you teach? - คุณสอนวิชาอะไร
What grade do you teach- คุณสอนชั้นอะไร
Have you taught English for 20 years? - คุณสอนภาษาอังกฤษมา 20 ปีแล้วเหรอ?
What do you teach- คุณสอนวิชาอะไร

ประโยคบอกเล่า

BOTH OF WHICH are not taught in Thailand. - ทั้งคู่ไม่ถูกสอนในไทย
NEITHER OF WHICH IS taught in Thailand. - ซึ่งทั้งสองวิชา ไม่ถูกสอนในไทย
I have taught English for 20 years. - ฉันสอนภาษาอังกฤษมา 20 ปีแล้ว

ประโยคปฏิเสธ 

I haven’t taught English for 20 years. - ฉันไม่ได้สอนภาษาอังกฤษมา 20 ปีหรอก

Information's by Kru Kris /translationfind.com

กริยา 3 ช่อง Swim และตัวอย่างการใช้ Swim

กริยา 3 ช่อง Swim 


กริยา 3 ช่อง Swim
กริยา 3 ช่อง Swim 
คำว่า swim  เมื่อนำมาแต่งประโยค หลายคนจะยังคงติดและคิดแบบการใช้ภาษาไทยอยู่  เช่น
ประโยคที่บอกว่า  ฉันชอบเล่นน้ำ(ว่ายน้ำ)

I  like play swim.
การใช้รูปแบบนี้ไม่ถูกหลักการใช้ภาษาอังกฤษ

เพราะว่า  มีคำกริยา  ตั้ง 3 ตัว
คือคำว่า  1. like  2. play  3. swim

คำว่า   swim  หมายถึง ว่ายน้ำ หรือเล่นน้ำ ไม่ต้องเติมคำว่าเล่นเพิ่ม 
(ยกเว้นคำที่คำที่ใช้ในการเล่นกีฬาชนิดอื่นๆ เช่น play football,  play volleyball...etc.)

ที่ถูกต้อง  จะต้องเป็น
I like swimming.
หรือ
I like to swim.

จะสังเกตุว่าหลังคำว่า    like ส่วนมากจะตาม ด้วย  V + ing
หรือ  like + to.....V 1

Credit Information's by ebook.mtk.ac.th

กริยา 3 ช่อง Have และตัวอย่างการใช้ Have

กริยา 3 ช่อง Have 


กริยา 3 ช่อง Have
กริยา 3 ช่อง Have 

•  เป็นกริยาสำคัญในประโยค แปลว่า มี หรือ รับประทาน
•  เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของรูปประโยค Perfect Tense.

 Have กับ Has แยกใช้กับประธานในประโยคดังต่อไปนี้

1 . ประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 ซึ่งได้แก่ He She It หรือ ชื่อคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียวที่ถูก กล่าวถึง ใช้ has เช่น
*  He has many pens. *  Dang has a dog.
*  Her sister has a doll. *  This cat has a short ear.
2 . ประธานที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่ 3 ทั้งหมด ใช้ have เช่น
*  They have a big buffaloes. * The foxes have long ears.
*  I have breakfast. * We have a big farm.

การสร้างประโยคที่มี have, has ให้เป็นประโยคปฏิเสธ

ใช้ do does เข้ามาช่วย โดยให้สอดคล้องกับประธาน คือ
1. ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ บุรุษที่ 3 ซึ่งได้แก่ He She It คนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง ใช้ does ตามด้วย not เป็น does not . เช่น
  • He does not have brother.
  • She does not have money.
  • It does not have a tail.
  • James does not have any pens.

does not ใช้รูปย่อเป็น doesn' t
  2. ถ้าประธานเป็นตัวอื่นที่ไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่ 3 ใช้ do ตามด้วย not เป็น do not . เช่น
  • They do not have any brother.
  • We do not have any money.
  • You do not have a tail.
  • James and Susan do not have any pens.
do not ใช้รูปย่อเป็น don' t
  หมายเหตุ   ในประโยคปฏิเสธไม่ว่าประธานจะเป็นพจน์หรือบุรุษใด ใช้ have ทั้งหมด

การทำประโยคที่มี have has ให้เป็นประโยคคำถาม ที่ต้องการคำตอบ Yes/No หรือ Yes/No Questions . มีหลักการดังนี้

  • เอา do does เข้ามาช่วย โดยวางไว้หน้าประประโยค และต้องอยู่หน้าประธานของประโยค
  • ผัน do does … ให้สอดคล้องกับประธานของประโยค
  • ในประโยคคำถามให้ใช้ have เพียงตัวเดียวเท่านั้น หลังจบประโยคต้องใส่เครื่องหมายคำถาม เช่น
  1. We have some money.  >>>   Do we have money?
  2. It has a tail.   >>>     Does it have a tail?
  3. James and Susan have pens.   >>>  Do James and Susan have pens?
  4. He has a big buffalo. >>>   Does he has a big buffalo?

Information's Credit by school.obec.go.th

กริยา 3 ช่อง Watch และตัวอย่างการใช้ Watch

กริยา 3 ช่อง Watch

กริยา 3 ช่อง Watch
กริยา 3 ช่อง Watch

ตัวอย่างการใช้กริยา 3 ช่อง Watch กับ Tenses

ตัวอย่างการใช้ กริยา 3 ช่อง Watch กับ Future Simple Tense

เช่น
I will watch a movie tomorrow night.
(will = มั่นใจว่าจะ)
เช่น
I am going to watch a movie tomorrow night.
(going to = ตั้งใจว่าจะ)
ฉัน(จะ)ดูหนังสักเรื่องคืนพรุ่งนี้

การใช้ : Future simple tense ใช้กับการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มักจะมีคำแสดงอนาคตอยู่ด้วย เช่น "tomorrow", "in a few minutes" หรือ "next week"

ตัวอย่างการใช้กริยา 3 ช่อง Watch กับ Present Continuous Tense

เช่น
Freddy is watching a movie.
Freddy กำลังดูหนังอยู่

การใช้: ใช้ present continuous เมื่อการกระทำนั้นกำลังดำเนินอยู่

ตัวอย่างการใช้กริยา 3 ช่อง Watch กับ Past Perfect Tense

เช่น
I had never watched Harry Potter until yesterday.
ผมไม่เคยดู Harry Potter จนกระทั่งเมื่อวาน

การใช้: Past perfect ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต


คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 9

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 9 หมวด W มีดังต่อไปนี้
กริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 8

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 8 หมวด T ถึง U มีดังต่อไปนี้
กริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 7

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 7 หมวด S มีดังต่อไปนี้
กริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 6

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 6 หมวด P ถึง S มีดังต่อไปนี้
กริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 5

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 5 หมวด O มีดังต่อไปนี้
กริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 4

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 4 หมวด G ถึง M มีดังต่อไปนี้
คำกริยา 3 ช่อง
เพิ่มคำอธิบายภาพ

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 3

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 3 หมวด F มีดังต่อไปนี้
กริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 2

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 2 ตั้งแต่ C ถึง F มีดังต่อไปนี้
คำกริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่อง หน้า 1

คำกริยา 3 ช่อง

คำกริยา 3 ช่องที่ไม่เหมือนกันทั้ง 3 ช่องพร้อมคำอ่าน 
หน้า 1 ตั้งแต่ A ถึง B มีดังต่อไปนี้
กริยา 3 ช่อง
คำกริยา 3 ช่อง

กริยา 3 ช่องที่มีรูปช่องที่ 2 (Past) เหมือนกับช่องที่ 3 (Past Participle) หน้า 10

กริยา 3 ช่อง

รูปช่องที่ 2 (Past) เหมือนกับช่องที่ 3 (Past Participle) ดังต่อไปนี้ 
หมายเหตุ : กริยา 3 ช่องหน้า 10 หมวด T ถึง U
กริยา 3 ช่อง
กริยา 3 ช่อง