หลักการเติม ed สำหรับ Regular Verbs

หลักการเติม ed สำหรับ Regular Verbs


หลักการง่ายๆ ในการเติม ed หลังคำกริยา Regular Verbs ดังนี้

1. กริยาที่ลงท้าย ด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม ed ยกตัวอย่างเช่น

cry – cried = ร้องไห้

marry – married = แต่งงาน

try – tried = พยายาม



2 กริยาที่ลงท้าย ด้วย y แต่หน้า y เป็นสระ (a/e/i/o/u) ใหเติม ed ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น

enjoy – enjoyed = สนุก

play – played = เล่น

stay – stayed = พัก , อาศัย



3 กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม d ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น

hope – hoped = หวัง

love – loved = รัก

move – move = เคลื่อน



4. กริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระ(a/e/i/o/u)ตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียวให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed ยกตัวอย่างเช่น

plan – planned = วางแผน

stop – stopped = หยุด

beg – begged = ขอร้อง



5. กริยาที่มี 2 พยางค์ แต่ลงเสียงหนักพยางค์หลัง และพยางค์หลังนั้น มีสระ(a/e/i/o/u)ตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed ยกตัวอย่างเช่น

concur – concurred = ตกลง, เห็นด้วย

occur – occurred = เกิดขึ้น

refer – referred = อ้างถึง

permit – permitted = อนุญาต


ข้อยกเว้น ถ้าออกเสียงหนักที่พยางค์แรก ไม่ต้องเติมพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น

cover – covered = ปกคลุม

open – opened = เปิด


6. นอกจากกฏที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อต้องการให้เป็นช่อง 2 ให้เติม ed ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น

talk – talked = พูด

start – started = เริ่ม

worked – worked = ทำงาน

กริยา 3 ช่อง หรือ Irregular Verb

กริยา 3 ช่องหรือ Irregular Verb


กริยา ภาษาอังกฤษคือ Verb ซึ่ง Verb แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ

  1. กริยาที่เป็นปกติ ( Regular Verb) คือ คำกริยาที่เมื่อเป็นอดีต หรือเป็น Past Participle แล้วเติม ed ลงไปท้ายคำนั้น 
  2. กริยาที่ไม่เป็นปกติ (Irregular Verb) คือ เมื่อเป็นอดีตแล้ว หรือเป็น Past Participle แล้วจะไม่เติม ed หลังคำกริยานั้นแต่จะเปลี่ยนรูปไปเลย Irregular verb จะแปลตามตัวได้ว่า กริยาที่ไม่มีกฏเกณฑ์ in = ไม่,in+regular = irregular (ให้สังเกตว่าเปลี่ยน in เป็น in  เป็น ir ไม่ปรกติ ไม่มีกฏเกณฑ์ ที่จะสามารถเปลี่ยนในลักษณะนี้ได้) 

Irregular Verbs (คำกริยา 3 ช่อง)แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

1. Irregular Verbs (คำกริยา 3 ช่อง) บางคำ เหมือนกันหมดทุกช่อง เช่น

  • bet  - bet - bet - พนัน
  • cut - cut - cut - ตัด


2. Irregular Verbs (คำกริยา 3 ช่อง) บางคำ ช่องที่ 1 กับ 3 เหมือนกัน เช่น


  • come - came - come - มา
  • rum - ran - run - วิ่ง


3.  Irregular Verbs (คำกริยา 3 ช่อง) บางคำ ช่องที่ 2 กับ 3 เหมือนกัน เช่น

  • buy - bought - bought  -   ซื้อ
  • catch - caught - caught  -   จับ , ขึ้นรถ


4.  Irregular Verbs (คำกริยา 3 ช่อง) บางคำ ต่างกันทุกคำ เช่น

  • begin - began - begun - เริ่มต้น
  • choose - chose - chosen - เลือก



คำกริยาบางคำสามารถเป็นได้ทั้ง Regular verbs และ Irregular verbs เช่น


  • burn - burned หรือ burnt
  • dream - dreamed หรือ dreamt




สรุปง่ายๆ

เรียก Regular Verb  ว่า "กริยาปกติ" เพราะ ช่อง 2 กับ 3 แค่เติม ed

เรียก Irregular Verb ว่า "กริยา 3 ช่อง" เพราะแต่ละช่องอาจจะเปลี่ยนรูปไปเลย หรือไม่เปลี่ยนเลย 1 2 3 ไม่เเหมือนกันเลย เลยต้องจำทั้ง 3 ช่อง

กริยา 3 ช่อง 100 คำ

กริยา 3 ช่อง 100 คำ


Irregular Verb คือ กริยาที่ผู้เรียนต้องศึกษาจดจำเป็นพิเศษ เพราะมีการเปลี่ยนรูปร่างต่างกันไป โดยไม่ได้เติม –ed ต่อท้ายเหมือน กริยาปรกติ (Regular Verbs) ส่วนมากเรียก กริยาอปกติ ว่า กริยา 3 ช่อง



Present
Past Simple
Past Participle
ความหมาย 
1  .be(is,am,are) อีส,แอม,อาร์ was,were วอส,เวอ been บีน เป็น,อยู่,คือ 
2.  bear แบร bore บอร born บอรน ถือ,เกิด 
3.  become (บิคั๊ม) became (บิเค๊ม) become บีคัม กลายเป็น 
4.  begin (บิกิ๊น) began  (บิแก๊น) begun  บีกัน เริ่มต้น 
5.  bend  เบนด bent เบนท bent เบนท โค้ง งอ 
6.  bet เบ็ท bet  เบ็ท bet เบ็ท พนัน 
7.  bite ไบท bit บิท bitten (or bit) บิททึน กัด ขบ ฉีก 
8.  bleed บลีด bled  เบล็ด bled เบล็ด เลือดออก 
9.  blow บโล blew บโรค blown บโลน พัด เป่า ตี 
10. bring บริง brought บรอท brought บรอท นำมา เอามา 
11. build บิลด built บิลท built บิลท สร้าง ก่อสร้าง 
12. burst เบิสท burst เบิสท burst เบิสท ระเบิด 
13. buy บาย bought บอท bought บอท ซื้อ 
14. cast แคสท cast แคสท cast แคสท ขว้าง 
15. catch แค็ทช caught คอท caught คอท จับ ได้รับ 
17. choose ชูส chose  โชส chosen โชส เลือก 
18. cling คลิง clung คลัง clung คลัง เกาะ เป็นที่พึ่ง 
19. come  คัม came  เคม come เคม มา 
20. cost  คอสท cost คอสท cost คอสท ราคา 
21. dig  ดิก dug  ดัก dug ดัก ขุด 
22. dive  ไดฝ dived (or dove)  โดฝ dived โดฝ ดำนํ้า 
23. do / does  ดู did  ดิด done ดิด ทำ 
24. draw  ดรอ drew  ดรู drawn ดรอน ลาก วาด เขียน 
25. drink  ดริงค drank  ดแรงค drunk ดรังค ดื่ม 
26. drive  ไดรฝ drove  ดโรฝ driven ดโรฝ ขับ(รถ) 
27. eat  อีท ate  เอท eaten อีทเทน กิน 
28.  fall  ฟอล fell  เฟ็ล fallen เฟ็ลเลน ตก หล่น 
29.  fight  ไฟท fought  ฟอท fought ฟอท ต่อสู้ 
30.  fling  ไฟนด flung  ฟลัง flung ฟลัง โยน พุ่ง เหวี่ยง 
31.  fly  ฟลาย flew  ฟลูพ flown ฟลาวน บิน 
32.  forbid  ฟอบิด forbade  ฟอเบด forbidden ฟอเบดเดน ห้าม ไม่อนุญาต 
33.  forget  ฟอเก็ท forgot  ฟอก็อท forgotten ฟอก็อทเทน ลืม 
34.  freeze  ฟรีส froze  โฟรส frozen โฟรสเซน เย็นจนแข็ง 
35.  get  เก็ท got  ก็อท got (or gotten) ก็อท เอา ได้รับ 
36.  give  กิฝ gave  เกฝ given เกฝวึน ให้ 
37.  go  โก went  เว็นท gone เว็นท ไป 
38.  grind  กรายด ground  กราวด์ ground กราวด์ บด ลับ 
39.  grow  กโร grew  กรู grown กโร เติบโตขึ้น 
40.  hang (people)  แฮง hanged  แฮงด hanged แฮงด แขวนคอ 
41.  hang (pictures)  แฮง hung  แฮง hung แฮง แขวน ห้อย 
42.  have / has  แฮฝ had  แฮด had แฮด มี 
43.  hide  ฮายด hid  ฮิท hidden ฮิทเดน ซ่อน 
44.  hurt  เฮิท hurt  เฮิท hurt เฮิท ทำอันตราย 
45.  know  โน knew  นู known โน รู้ 
46.  lay  เล laid  เลด laid เลด วาง ออกไข่ 
47.  lead  ลีด led  เหล็ด led เหล็ด นำ พา 
48.  leave  ลีฝ left  เล็ฟท left เล็ฟท ละทิ้ง จากไป 
49.  lend  เล็นด lent  เล็นท lent เล็นท ให้ยืม 
50.  lie  ลาย lay  เล lain เลน นอน 
51.  light  ไลท lit  ลิท lit ลิท จุดไฟ 
52.  make  เมค made  เมด made เมด ทำ 
53.  mistake  มิสเตค mistook  มิสตุค mistaken มิสเทคเคน ทำผิด 
54.  pay  เพ paid  เพด paid เพด จ่าย ชำระ 
55.  quit   ควิท quitted (or quit)  ควิทเท็ด quit ควิทเท็ด หยุด ยุติ เลิก 
56.  ride  รายด rode  โรด ridden ริดเดิน ขี่ ขับ 
57.  ring  ริง rang  แรง rung รัง สั่นกระดิ่ง ดัง 
58.  rise  ไรซ rose  โรส risen ไรซึน ขึ้น ลุกขึ้น 
59.  run  รัน ran  แรน run รัน วิ่ง 
60.  saw  ซอว sawed  ซอวด sawn ซอวน เลื่อย 
61.  say  เซ said  เซด said เซด พูด 
62.  see  ซี saw  ซอ seen ซอ เห็น 
63.  seek  ซีค sought  ซอท sought ซอท ค้นหา 
64.  sell  เซ็ล sold  โซลด sold โซลด ขาย 
65.  set  เซ็ท set  เซ็ท set เซ็ท ตั้ง วาง จัด 
66.  shake  เชค shook  ชุค shaken เชคเคน เขย่า สั่น 
67.  shine  ชายน shone  โชน shone โชน ส่องแสง 
68.  shrink  ชริงค shrank  ชแรงค shrunk ชรังค หดลง สั้นลง 
69.  sing  ซิง sang  แซง sung ซัง ร้องเพลง 
70.  sink  ซิงค sank  แซงค sunk ซังค จม ถอยลง 
71.  slide  สไลด slid  สลิด slid สลิด สื่นไถล เลื่อนไป 
72.  speak  สปีค spoke  สโปค spoken สโปคเคน พูด 
73.  spin  สปิน spun  สปัน spun สปัน ม้วน ปั่นฝ้าย 
74.  split  สปลิท split  สปลิท split สปลิท แตก แยก 
75.  spring  สปริง sprang  สแปรง sprung สแปรง โดดอย่างเร็ว เด้ง 
76.  sting  สติง stung  สตัง stung สตัง ต่อย แทง 
77.  stink  สติงค stank  สแตงค stunk สแตงค ส่งกลิ่นเหม็น 
78.  strike  สไตรค struck  สตรัค struck สตรัค ตี ต่อย กระทบ 
79.  string  สตริง strung  สตรัง strung สตรัง ผูกเชือก ขึงสาย 
80.  strive  ซทรีฝ strove  ซโทรฝ striven ซทรีฝเอ็น พยายาม ขันสู้ 
81.  swear  สแว swore  สวอ sworn สวอน สาบาน ปฏิญาณ 
82.  swell  สเว็ล swelled  สเว็ลด swollen สเว็ลดเล็น โตขึ้น หนาขึ้น 
83.  swim  สวิม swam  สแวม swum สวัม ว่ายนํ้า 
84.  swing  สวิง swung  สวัง swung สวัง แกว่ง เหวี่ยง 
85.  take  เทค took  ทุค taken เทคเคน เอา จับหยิบ 
86.  teach  ทีช taught  ทอท taught ทอท สอน 
87.  tear  แท tore  ทอ torn ทอรน ฉีก ขาด 
88.  think  ธิง thought  ธอท thought ธอท คิด 
89.  throw  ธโร threw  ธรู thrown ธโร เหวี่ยง ขว้าง 
90.  wake  เวค woke  โวค waken เวคเคน ตื่น ปลุก 
91.  wear  แว wore  วอ worn วอรน สวม ใส่ 
92.  weave  วีฝ wove  โวฝ woven โวฝ ทอผ้า สาน 
93.  weep วีพ wept  เว็พท wept เว็พท ร้องไห้ 
94.  wring  วริง wrung  วรัง wrung วรัง บีบ คั้น 
95.  write  ไรท wrote  โรท written  ไรทเทน เขียน 
96.  dream ดรีม dreamt ดรีมท dreamt ดรีมท ฝัน
97.  smell สเมล smelt สเมลท smelt สเมลท ดม,สูดกลิ่น
98.  sweep สวีฟ Swept สเวฟท swept สเวฟท กวาด
99.  steal สตีล stole สโตล stolen สโตลเลน ลัก,ขโมย
100.  understand อันเดอสแตน understood อันเดอสตูท understood อันเดอสตูท เข้าใจ